วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ประวัติศาสตร์จีน

ประวัติศาสตร์จีน

       ถ้าจะกล่าวในทางเชื้อชาติ (race) คนจีนเป็นมนุษยที่มีเชื้อชาติมองโกลอยด์ (Mongoloia) หรือมนุษยมองโกเลีย (Mongolian men) พวกหนึ่งซึ่งยังไม่มีนักมานุษยวิทยาหรือนักประวัติศาสตร์สามารถกำหนดต้นตอถิ่นฐานดั้งเดิม และ การเริ่มแรกที่แน่นอนของมนุษย์เชื้อชาตินี้ได้ แต่เท่าที่ปรากฏในหลักฐานทางวิชาการนั้น พวกมองโกลอยด์คงจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเหนือ (Northerngroup) กลุ่มใต้ (Southern group) และกลุ่มมหาสมุทร (Oceanic group) 

      สำหรับกลุ่มเหนือนั้นก็ได้แก่ชาวเติร์ก (Turk) เผ่าต่างๆ และชาวโลกอีกหลายพวก เช่นพวกฟินน์ (Finns) พวกแลปส์ (Lapps), พวกบุลการ์ (Bulgars) และพวกแม็กยาร์ (Magyars) กลุ่มเหนิอนี้ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปจากมองโกลอยด์เดิมไปโดยที่ได้ร่วมสิบพันธุ์ กับชาวยุโรปทางเหนือและทางตะวันตกมากขึ้น รวมทั้งการร่วมสืบพันธุ์ กับพวกนอร์ดิค (Nordic) และพวกที่อยู่ในภูเขาแอลป์ (Alpine) ด้วย กลุ่มนี้ได้รวมถึงชนชาติต่าง ๆ ในไซบีเรียตะวันออกและชาติแมนจู (Manchas) ในประเทศจีน

      การค้นคว้าวิจัยได้พบว่าชาวเกาหลีและชาวญี่ปุ่นก็รวมอยู่ในกลุ่มเหนือนี้ด้วย ชาวรัสเซียบางพวกก็มีหลักฐานสนับสนุนว่ามีเชื้อสายมาจากพวกมองโกลอยด์กลุ่มเหนือ ทั้งนี้เนื่องด้วยพวกมองโกลได้ท่องเที่ยวผจญภัยไปในทางตะวันตกสมัยกลางเป็นจำนวนมาก กลุ่มใต้นั้นก็ได้แก่ชาวจีนแท้ ชาวพม่า และชาวไทย รวมทั้งชาวเขมร ลาว ญวน และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ในภูเขาหิมาลัย เชี้อชาติมองโกลกลุ่มที่สามคือ กลุ่มทะเลหลวงนั้นได้แก่คนส่วนใหญ่ในหมู่เกาะอิสอินดีส์ (East Indies) ประเทศอินโดนีเซีย เกาะชาราวัค (Sarawak) เกาะบรูไน (Brunei) ยกเว้นชาวป่าในทวีปออสเตรเลีย กลุ่มมหาสมุทรนี้รวมถึงชาวมาเลย์ (Malays) และชาวเกาะมาดากาสก้าด้วย

     ในด้านอารยธรรมหรือวัฒนธรรมนั้น มนุษย์ในปัจจุบันรู้เรื่องความเป็นมาของอารยธรรมหรือวัฒนธรรมจีนน้อยมากว่าเริ่มต้นเมื่อใด ในรูปใด แต่เราพอจะกล่าวได้ด้วยความแน่ใจก็คือารยธรรมของจีนเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และอยู่ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันโดยไม่ขาดสายจนกระทั่งปัจจุบนั้นนักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่าอิทธิพลของอารยธรรมของจีน เริ่มต้นมาจากประเทศหนึ่งในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอเชียซึ่งได้กล่าวสนับสนุนว่า เพราะอักษรหรือคำพูด ของจีนกับอัคคาเดีย ( Akkadia ) คล้ายคลึงกันตลอดจนมีระบบดวงตาว (Astronomicalsystems) คล้ายคลึงกันอีกด้วย ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าชาวจีนเคยถูกชาวอัคคาเดียปกครองหรือยึดเอาเป็นเมืองขึ้น แต่โดยที่จีนได้มีการติดต่อทางค้าขายกับอัคคาเดียมาเป็นเวลานานจึงได้รับเอาวัฒนธรรมบางประการเข้ามาใช้ในประเทศ การติดต่อทางค้าขายเป็นไปในหมู่กองเกวียนขนสินค้า (Caravan) ไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศ โดยมีพ่อค้าผู้ชำนาญทางเป็นผู้นำ ถ้าเป็นทางทะเลก็มีเรือใบเดินทางจากจีนไปยังอัคคาเดียที่เมืองท่าเอริดู (Eridu) ในตอนเหนือของอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเมื่อ 4-5 พันปี มาแล้วเมืองเอริดูนี้มีฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุด

       ชาวจีนนั้นกว่าจะรวมกันเป็นประเทศเดียว กว้างขวางไพศาลนั้นใช้เวลาหลายศตวรรษ แม้กระนั้นก็ยังมีความแตกต่างในเรื่องเชื้อขาติของบุคคลอยู่มากจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการขุดพบสิ่งของที่แสดงว่ามนุษย์สมัธนีโอลิธิค (Neoli-thic) เคยมีชีวิตอยู่ในประเทศจีนตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา ได้มีการชุดพบหลักฐานว่าได้มีมนุษย์ กับหลักฐานอยู่ในประเทศจีน อย่างแน่นอนในสมัยปาเลโอลิธิค (Paleolithic) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า มนุษย์ในสมัยดึกดำบรรพ์เคยตั้งหลักฐานอยู่ในประเทศจีนอย่างแน่นอน 

      หลักฐานทางมนุษย์วิทยาที่ขุดพบกระโหลกศีรษะที่บริเวณใกล้เมืองปักกิ่ง นั้นเป็นพยานที่ แสดงให้เห็นชัดในข้อนี้ วัฒนธรรมสมัยโอลิธิคซึ่งอยู่ในระยะปี 20,000-15,000 ก่อน ค.ศ. นั้นได้มีการขุดพบหลักฐานแสดงว่าในสมัยนั้นผู้คนตั้งหลักฐานอยู่ในประเทศจีนแล้วอย่างแน่นอนโดยเฉพาะในทางตะวันออกเฉียงเหนือและทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในทางตะวันตกเฉียงเหนือนี้ได้มการขุดพบเครื่องปั้นดินเผา (Pottery) ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบในบาบิโลเนีย (Babylonia) ในสมัยเดียวกันจึงพอจะกะประมาณได้ในราว 3,500 ปีก่อน ค.ศ. ลักษณะของเครื่องปั้นดินเผาที่พบในประเทศทั้งสองนั้นนับว่าได้เคยมีอารยธรรมที่คล้ายคลึงกันในภาคพื้นของโลกตั้งแต่เอเชียกลางไปจนสุดเปอร์เซียอย่างแน่นอนซึ่งรวมทั้งอียิปต์และซีเรีย ในสมัยก่อนปี 4,000 ก่อน ค.ศ. นักประวัติศาสตร์บางท่านเห็นว่า คนจีนแต่ก่อนคงจะมีลักษณะคล้าย กับคนยุโรปมาก แต่เมื่อมีการผสมเผ่าพันธ์ระหว่างคนจีนกับผู้รุกรานที่เป็นชาวป่าเผ่าต่าง ๆ เช่น เติร์กและแมนจู เป็นต้น จึงทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปมีลักษณะเช่นคนจีน ในบัจจุบัน.


 จากหนังสือปรัชญาจีน โดย เดชชาติ  วงศ์โกมลเชษฐ์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น