วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

กลอนนิราศ, กลอนเพลงยาว, กลอนนิทานหรือกลอนนิยาย, กลอนเพลงปฏิพากย์

กลอนนิราศ

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทกลอนนิราศ จำนวน ๑ บท



ตัวอย่าง คำประพันธ์ประเภทกลอนนิราศ จำนวน ๒ บท บทแรกเป็นบทขึ้นต้นนิราศ

                                                            "โอ้สังเวชวาสนานิจจาเอ๋ย

        จะมีคู่มิได้อยู่ประคองเชย                 ต้องละเลยดวงใจไว้ไกลตา 

        ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้า          ไม่เหมือนเราภูมรินถวิลหา

        จะพลัดพรากจากกันไม่ทันลา          ใช้แต่ตาต่างถ้อยสุนทรวอน"

                                                            (นิราศเมืองแกลง, สุนทรณภู่)

ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๔ วรรค หรือ ๒ บาท หรือ ๒ คำกลอน, ๑ บาท มี ๒ วรรค

    วรรคละ ๗ - ๙ คำ

๒. สัมผัส - ขึ้นอยู่กับจำนวนคำในแต่ละวรรค เช่น หากวรรคหนึ่งมีแปดคำตาม

แผนผัง สัมผัสบังคับคือ คำสุดท้ายของวรรคแรก สัมผัสกับคำที่สาม หรือคำที่ห้าของวรรคที่ ๒,

คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓

สัมผัสกับคำที่สามหรือคำที่ห้าของวรรคที่ ๔ เป็นต้น

สัมผัสระหว่างบท - คำสุดท้ายของบทต้นสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่สองของบทถัดไป

*หมายเหตุ

๑. วรรคแรกมักขึ้นต้นด้วยคำว่า "นิราศ" และลงท้ายเรื่องด้วยคำว่า "เอย"

๒. บทแรกของนิราศมักขึ้นต้นด้วยวรรครับ


กลอนเพลงยาว ใช้ฉันทลักษณ์เช่นเดียวกับกลอนนิราศ แต่มีเนื้อหาต่างกัน

คือกลอนเพลงยาวเป็นสารรัก คร่ำครวญ ตัดพ้อ พรรณนาถึงความรักหรือความทุกข์ แต่ละ

บทไม่ยาวนัก ส่วนกลอนนิราศเป็นการพรรณนาถึงคนรักที่ต้องจากกันไกล จึงมักคร่ำครวญ

ยาวนาน โดยใช้ชื่อสถานที่หรือธรรมชาติตามเส้นทางหรือกาลเวลามาประกอบการพรรณนานั้นด้วย


กลอนนิทานหรือกลอนนิยาย ใช้ฉันทลักษณ์เช่นเดียวกับกลอนนิราศ แต่มีเนื้อหาแตกต่างกัน คือ กลอนนิทานเป็นการเล่านิทานด้วยคำกลอน


กลอนเพลงปฏิพากย์ เป็นกลอนที่ใช้ร้องโต้ตอบกัน ถือเป็นเพลงพื้นบ้าน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น