วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

30°C


วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ลองสร้างภาพการ์ตูน ด้วย leonardo.ai

พึ่งได้ลองใช้  leonardo.ai ในการสร้างภาพการ์ตูน

ยัง งง ๆ อยู่เลยใช้ prompt ง่าย ๆ ก่อน

คือให้generate เป็นรูป  cute 2d anime.














แล้วลอง copy prompt ของคนอื่นที่สวย ๆ ดู เพื่อหัดใช้

แล้ว generate ออกมา หลายภาพเลยทีเดียว





















ก็สวยดีเกินคาด ทั้งคุณภาพของรูป แสงเงา สี บรรยากาศ

แต่ก็มาเอะใจบางรูป รู้สึกว่า มือ แปลก ๆ

เช่นรูปนี้





















เหมือน AI ยังมีข้อผิดพลาดอยู่ โดยเฉพาะการgenerate มือให้เป็นธรรมชาติ

มีอีกรูปที่แปลก ๆ เช่นกัน คือมี 3 มือ





















อันนี้ถ้าไม่คิดอะไรมาก ศิลปินที่พอจะแก้ไขเองได้ก็ไม่ยากอะไร

สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีทักษะทางศิลปะ ก็อาจจะลำบากนิดนึง

อาจจะต้องครอป (crop) ภาพเอาส่วนที่ต้องการแทน

ไม่รู้ว่า Photoshop beta ตัวใหม่ที่พึ่งออกมาจะแก้ไขได้รึเปล่า

เพราะยังไม่ได้ทดลองใช้เหมือนกัน


อันที่จริงการวาดมือให้สวย ก็ต้องใช้การฝึกฝนเหมือนกัน

แม้ทุกวันนี้ตนเองก็ยังทำได้ไม่ดี

ไม่น่าเชื่อว่า AI ยังมีข้อผิดพลาดตรงนี้

ซึ่งต่อไปอีกไม่นาน น่าจะไม่มีข้อผิดพลาดตรงนี้แล้ว ในความคิดเห็นส่วนตัว.

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

เปลี่ยนเสียงในวิดีโอเป็นตัวหนังสือ (Video & Audio to Text )

 ลองเปลี่ยนเสียงในวิดีโอ หรือเสียง MP3 เป็นตัวหนังสือ

ไปที่เว็บไซด์ veed.io







เลือกไฟล์ที่ต้องการอัพโหลด หรือใส่ลิ้งค์ก็ได้








แล้วกดที่ Auto Subtitle 








เลือกภาษาที่ต้องการได้ มีหลายภาษารวมถึงภาษาไทยด้วย












กด Create Subtitle แล้วรอมัน Generate

จะได้ตัวหนังสือ ตามtimeline ของวิดีโอ

สามารถปรับรูปแบบตัวอักษร สี ขนาดได้




สามารถดาวน์โหลดตัวหนังสือได้ ไฟล์ .SRT, .VTT, .TXT (แต่ต้องจ่ายเงิน)









เหมาะสำหรับบรรยายคลิปวิดีโอแบบสะดวก ไม่ต้องพิมพ์เองทั้งหมด

แต่มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่ ข้อความไม่ถูกต้องเสียทีเดียว มีข้ามคำบ้าง ต้องตรวจดูให้ดี

แต่ก็นับว่าพอใช้ได้ดี.

35°C

 

































วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ใช้ AI แต่งเพลงใน 5 นาที

 ลองใช้ AI แต่งเพลง คราวนี้มีเนื้อร้องและทำนองด้วย

โดยขั้นแรกให้ [ChatGTP] generate เนื้อร้องให้ก่อน

โดยให้ธีม (Theme) เกี่ยวกับ  "relationship" (ความสัมพันธ์)

ได้เนื้อเพลงดังนี้


In the depths of our hearts, where love finds its home,

A story of two souls, together they roam,

Through sunshine and rain, we'll weather the storm,

A relationship's journey, forever to be adorned.

Like a melody playing, our hearts are in tune,

Every note, every beat, whispers "I love you,"

Through highs and lows, we'll face every test,

Our bond never breaking, we'll always be blessed.

Oh, this relationship, a beautiful dance,

Embracing each other, taking a chance,

Through twists and turns, we'll navigate,

Hand in hand, together, our love will resonate.

Every day, a new chapter, written with care,

Our love story unfolding, beyond compare,

With understanding and trust, we'll thrive,

In this dance of devotion, we'll feel alive.


จากนั้นไปที่ app.songr.ai

เลือกแนวเพลงที่ชอบ ใส่เนื้อเพลงที่ได้มาจากChatGTP

เนื้อร้องใช้ได้ 750 ตัวอักษร เท่านั้น

เลือกเสียงร้องผู้หญิงหรือผู้ชาย

แล้วกด Render

นี่คือเพลงที่ได้



รวดเร็วใน 5 นาที.


38 °C

 


วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ประวัติศาสตร์จีน

ประวัติศาสตร์จีน

       ถ้าจะกล่าวในทางเชื้อชาติ (race) คนจีนเป็นมนุษยที่มีเชื้อชาติมองโกลอยด์ (Mongoloia) หรือมนุษยมองโกเลีย (Mongolian men) พวกหนึ่งซึ่งยังไม่มีนักมานุษยวิทยาหรือนักประวัติศาสตร์สามารถกำหนดต้นตอถิ่นฐานดั้งเดิม และ การเริ่มแรกที่แน่นอนของมนุษย์เชื้อชาตินี้ได้ แต่เท่าที่ปรากฏในหลักฐานทางวิชาการนั้น พวกมองโกลอยด์คงจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มเหนือ (Northerngroup) กลุ่มใต้ (Southern group) และกลุ่มมหาสมุทร (Oceanic group) 

      สำหรับกลุ่มเหนือนั้นก็ได้แก่ชาวเติร์ก (Turk) เผ่าต่างๆ และชาวโลกอีกหลายพวก เช่นพวกฟินน์ (Finns) พวกแลปส์ (Lapps), พวกบุลการ์ (Bulgars) และพวกแม็กยาร์ (Magyars) กลุ่มเหนิอนี้ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างไปจากมองโกลอยด์เดิมไปโดยที่ได้ร่วมสิบพันธุ์ กับชาวยุโรปทางเหนือและทางตะวันตกมากขึ้น รวมทั้งการร่วมสืบพันธุ์ กับพวกนอร์ดิค (Nordic) และพวกที่อยู่ในภูเขาแอลป์ (Alpine) ด้วย กลุ่มนี้ได้รวมถึงชนชาติต่าง ๆ ในไซบีเรียตะวันออกและชาติแมนจู (Manchas) ในประเทศจีน

      การค้นคว้าวิจัยได้พบว่าชาวเกาหลีและชาวญี่ปุ่นก็รวมอยู่ในกลุ่มเหนือนี้ด้วย ชาวรัสเซียบางพวกก็มีหลักฐานสนับสนุนว่ามีเชื้อสายมาจากพวกมองโกลอยด์กลุ่มเหนือ ทั้งนี้เนื่องด้วยพวกมองโกลได้ท่องเที่ยวผจญภัยไปในทางตะวันตกสมัยกลางเป็นจำนวนมาก กลุ่มใต้นั้นก็ได้แก่ชาวจีนแท้ ชาวพม่า และชาวไทย รวมทั้งชาวเขมร ลาว ญวน และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ในภูเขาหิมาลัย เชี้อชาติมองโกลกลุ่มที่สามคือ กลุ่มทะเลหลวงนั้นได้แก่คนส่วนใหญ่ในหมู่เกาะอิสอินดีส์ (East Indies) ประเทศอินโดนีเซีย เกาะชาราวัค (Sarawak) เกาะบรูไน (Brunei) ยกเว้นชาวป่าในทวีปออสเตรเลีย กลุ่มมหาสมุทรนี้รวมถึงชาวมาเลย์ (Malays) และชาวเกาะมาดากาสก้าด้วย

     ในด้านอารยธรรมหรือวัฒนธรรมนั้น มนุษย์ในปัจจุบันรู้เรื่องความเป็นมาของอารยธรรมหรือวัฒนธรรมจีนน้อยมากว่าเริ่มต้นเมื่อใด ในรูปใด แต่เราพอจะกล่าวได้ด้วยความแน่ใจก็คือารยธรรมของจีนเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และอยู่ติดต่อกันมาถึงปัจจุบันโดยไม่ขาดสายจนกระทั่งปัจจุบนั้นนักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่าอิทธิพลของอารยธรรมของจีน เริ่มต้นมาจากประเทศหนึ่งในทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอเชียซึ่งได้กล่าวสนับสนุนว่า เพราะอักษรหรือคำพูด ของจีนกับอัคคาเดีย ( Akkadia ) คล้ายคลึงกันตลอดจนมีระบบดวงตาว (Astronomicalsystems) คล้ายคลึงกันอีกด้วย ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าชาวจีนเคยถูกชาวอัคคาเดียปกครองหรือยึดเอาเป็นเมืองขึ้น แต่โดยที่จีนได้มีการติดต่อทางค้าขายกับอัคคาเดียมาเป็นเวลานานจึงได้รับเอาวัฒนธรรมบางประการเข้ามาใช้ในประเทศ การติดต่อทางค้าขายเป็นไปในหมู่กองเกวียนขนสินค้า (Caravan) ไปมาหาสู่ระหว่างสองประเทศ โดยมีพ่อค้าผู้ชำนาญทางเป็นผู้นำ ถ้าเป็นทางทะเลก็มีเรือใบเดินทางจากจีนไปยังอัคคาเดียที่เมืองท่าเอริดู (Eridu) ในตอนเหนือของอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเมื่อ 4-5 พันปี มาแล้วเมืองเอริดูนี้มีฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุด

       ชาวจีนนั้นกว่าจะรวมกันเป็นประเทศเดียว กว้างขวางไพศาลนั้นใช้เวลาหลายศตวรรษ แม้กระนั้นก็ยังมีความแตกต่างในเรื่องเชื้อขาติของบุคคลอยู่มากจนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการขุดพบสิ่งของที่แสดงว่ามนุษย์สมัธนีโอลิธิค (Neoli-thic) เคยมีชีวิตอยู่ในประเทศจีนตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 เป็นต้นมา ได้มีการชุดพบหลักฐานว่าได้มีมนุษย์ กับหลักฐานอยู่ในประเทศจีน อย่างแน่นอนในสมัยปาเลโอลิธิค (Paleolithic) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า มนุษย์ในสมัยดึกดำบรรพ์เคยตั้งหลักฐานอยู่ในประเทศจีนอย่างแน่นอน 

      หลักฐานทางมนุษย์วิทยาที่ขุดพบกระโหลกศีรษะที่บริเวณใกล้เมืองปักกิ่ง นั้นเป็นพยานที่ แสดงให้เห็นชัดในข้อนี้ วัฒนธรรมสมัยโอลิธิคซึ่งอยู่ในระยะปี 20,000-15,000 ก่อน ค.ศ. นั้นได้มีการขุดพบหลักฐานแสดงว่าในสมัยนั้นผู้คนตั้งหลักฐานอยู่ในประเทศจีนแล้วอย่างแน่นอนโดยเฉพาะในทางตะวันออกเฉียงเหนือและทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในทางตะวันตกเฉียงเหนือนี้ได้มการขุดพบเครื่องปั้นดินเผา (Pottery) ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบในบาบิโลเนีย (Babylonia) ในสมัยเดียวกันจึงพอจะกะประมาณได้ในราว 3,500 ปีก่อน ค.ศ. ลักษณะของเครื่องปั้นดินเผาที่พบในประเทศทั้งสองนั้นนับว่าได้เคยมีอารยธรรมที่คล้ายคลึงกันในภาคพื้นของโลกตั้งแต่เอเชียกลางไปจนสุดเปอร์เซียอย่างแน่นอนซึ่งรวมทั้งอียิปต์และซีเรีย ในสมัยก่อนปี 4,000 ก่อน ค.ศ. นักประวัติศาสตร์บางท่านเห็นว่า คนจีนแต่ก่อนคงจะมีลักษณะคล้าย กับคนยุโรปมาก แต่เมื่อมีการผสมเผ่าพันธ์ระหว่างคนจีนกับผู้รุกรานที่เป็นชาวป่าเผ่าต่าง ๆ เช่น เติร์กและแมนจู เป็นต้น จึงทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปมีลักษณะเช่นคนจีน ในบัจจุบัน.


 จากหนังสือปรัชญาจีน โดย เดชชาติ  วงศ์โกมลเชษฐ์



วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

วรรณคดีจีน (สามก๊ก)

         วลีที่ว่า "ใครอ่านสามก๊กจบสามรอบคบไม่ได้"

ถ้าเป็นความจริง ตนเองยิ่ง "คบไม่ได้"

เพราะวรรณกรรมจีนสามก๊กนั้น ตัวเองอ่านมาตั้งแต่วัยรุ่น

เริ่มจาก สามก๊กฉบับพระยาพระคลัง (หน) เป็นหนังสือที่มีความหนาพอสมควร


               ภาษาแอบโบราณแต่ก็อ่านง่าย ไม่ได้อ่านจบง่ายในครั้งเดียว ทะยอยอ่าน เวลาว่างก็หยิบมาอ่านที เอาไว้แก้เบื่อในยามว่างเท่านั้น

               หลังจากนั้นก็ได้อ่าน สามก๊กฉบับ เล่าชวนหัว (อาจารย์สุขสันต์  วิเวกเมธากร) เปิดหน้ากากขงเบ้ง เล่ม 1-3, ชำแหละกึ๋นเล่าปี่, ผ่าสมองโจโฉ, แหวะหัวใจซุนกวน, ล้วงคอสุมาอี้, เทิดศักดิ์ศรีจูล่ง และ ลอยเรือชม จิวยี่


              อันนี้อ่านง่าย มีเสียดสีบ้าง ชวนให้คิดอยู่เหมือนกัน มีแง่มุมอื่นที่คิดไม่ถึง ก็ถือว่าสนุกดี

              แล้วก็มีโอกาสได้อ่านสามก๊ก ฉบับ วรรณไว พัธโนทัย ซึ่งอ่านง่ายกว่า ฉบับของพระยาพระคลัง (หน)  

              ในขณะนั้นก็มีรายการโทรทัศน์ สามก๊ก ฉบับนักบริหาร ของ อ.เจริญ วรรธนะสิน ฉายเป็นตอน ๆ อธิบายสามก๊ก (1994) ในแง่มุมของนักบริหาร แต่ส่วนตัวไม่ได้สนใจแง่มุมนี้มากนักเพราะถือว่าตอนนั้นยังเด็ก และเป็นเรื่องไกลตัว ในส่วนที่เป็นหนังสือก็ไม่ได้อ่าน ไปร้านหนังสือได้แต่เปิดดูเพราะหลายเล่มและราคาแพง
                    แล้วยังมีพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มเล็ก ๆ ที่แถมมากับหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ แยกขุนศึก กุนซือ เป็นเรื่อง ๆ เป็นเกร็ด อีก ซึ่งจำหน้าตาของหนังสือไม่ได้เสียแล้ว

                    ส่วนละครโทรทัศน์ก็ได้ดู สามก๊ก (1994) ที่ถือว่าคัดเลือกนักแสดงได้สมกับบทบาทดี ซีนที่ชอบคือ ขงเบ้งโต้วิวาทะกับปราชญ์กังตั๋ง ตอนสงครามลิ้น สนุกและคมคายดี ไม่ว่าเวอร์ชั่นไหนก็ทำได้ไม่ถึงเทียบเท่าเวอร์ชั่น 1994 นี้


                     แม้จะโดนปราชญ์กังตั๋งหลายคนรุม แต่ขงเบ้งก็โต้คารมได้ดีด้วยปัญญา คนที่มารุมวิพากษ์ด้วยเจตนาไม่ดี ย่อมพ่ายแพ้ต่อหลักการและเหตุผลที่ดี

                     ยังมีการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวข้องกับสามก๊ก มากมายหลายเรื่อง ก็มีโอกาสได้ดูตลอดเพื่อความบันเทิง

                     สำหรับการฟังเป็นเสียงเพียงอย่างเดียวก็ได้ฟัง สามก๊ก ฉบับคนขายชาติ โดย เรื่องวิทยาคม ซึ่งเป็นสามก๊กฉบับที่ชอบที่สุด เพราะเรียบเรียงได้ดี สอดแทรกและเทียบเคียงกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยช่วงหนึ่ง เปิดฟังไปเขียนการ์ตูนไป สมาธิอยู่กับการเขียนส่วนหูอยู่กับเรื่องราวในสามก๊ก จนได้มีโอกาสได้เขียนภาพประกอบหนังสือสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ เรียบเรียงโดย เจ้าหยุ่น (สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิคส์) ซึ่งออกมาหลังจาก ภาพยนตร์สามก๊กของ จอห์น วู ศึกผาแดง
                            

                        ก็วาดโดยได้อิทธิพลจากภาพยนตร์ ต้องอ่านหนังสือต้นฉบับ และกลับไปอ่านเวอร์ชั่นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศึกผาแดง อีกรอบ รวมถึงหาข้อมูลการแต่งกายของตัวละครต่าง ๆ โดยบรรณาธิการต้องการให้เป็นภาพที่คล้าย ๆ มีเส้นที่เป็นเหมือนวาดด้วยพู่กัน ก็จำเป็นต้องทดลองใช้พู่กันวาดในส่วนที่ต้องเป็นเส้นหนา ก็ต้องปรับพอสมควรเพราะวาดโดยใช้ปากกาเคมีหัวเล็ก ๆ มาตลอด 

                        ก็จำไม่ได้แล้วว่าอ่าน ดู ฟัง สามก๊ก ไปกี่รอบ กี่จบ นับไม่ถ้วน คบได้ไม่ได้ก็แล้วแต่จะคิด ในนิยายจีนมักจะมีเรื่องคุณธรรมน้ำมิตร แต่ในสามก๊กอยู่ในช่วงศึกสงคราม มีแต่กลยุทธ์ แผนการ เพื่อช่วงชิงชัยชนะในการศึก หาคุณธรรมได้ยาก 

                        ที่พอจะหยิบยกมาได้บ้างก็เช่น กวนอูปล่อยโจโฉ ในศึกผาแดง เพื่อแทนคุณโจโฉที่เคยดูแลยามยากและยกม้าเซ็กเธาว์ให้ บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระชัดเจนดี

                        แม้แต่คำสาบานที่สวนดอกท้อ ก็ยึดถือต่อกันจนวาระสุดท้าย

                        การคบหากันก็สมควรมีเรื่องคุณธรรมน้ำมิตรด้วย เพราะเพียงแค่จะหาผู้คนเพื่อดื่มกินนั้นหาง่ายแต่จะหาผู้ที่ให้หัวจิตหัวใจด้วยความจริงใจนั้นหาได้ยาก
                     
                        เราอาจจะค้นพบหัวใจของผู้คนได้ในยามยาก แยกมิตรและศัตรูได้ แต่กระนั้นแม้นไม่มีมิตรสักคน คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร.

ใช้ AI แต่งเพลง

ตอนนี้เราสามารถใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่งเพลงได้แล้ว

โดยจะใช้เว็บ AIVA ทดลองแต่งเพลงดู









เราสามารถเลือกแนวเพลงได้ ซึ่งมีให้เลือกหลายร้อยแนว









ถ้าหาแนวเพลงที่ชอบไม่เจอก็ลองพิมพ์หาในช่องค้นหาได้ ในที่นี้จะลองแนว Hip-Hop ก็ลองพิมพ์ค้นหาดู









ก็จะพบว่ามี 2 แนวเพลง คือ Lo-Fi (Hip-Hop) กับ Hip-Hop & Violins 

ส่วนตัวชอบแบบ Lo-Fi ก็เลือกแนวเพลงนี้ดู









กด Create ก็จะมีให้เลือกคีย์เพลง เวลาของเพลง แล้วก็จำนวนเพลงที่จะให้ทำออกมา









ลองใช้คีย์ G major ความยาวเพลง 2:30-3:00 จำนวนเพลงเลือกได้ 5 เพลง แต่เลือกแค่ 4 เพลงก็พอ

และนี่คือตัวอย่างเพลงที่ได้





เราสามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์ Mp3 ได้ และไฟล์ Midi ทำให้สามารถไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขในโปรแกรมแต่งเพลงอื่น ๆ ได้








แต่ในเว็บ aiva ก็สามารถแก้ไขเพลงได้ในช่อง Editor 









แก้ไขเมโลดี้ (Melody) ได้ ถ้าเราไม่ชอบ รวมถึง Tempo, Chords, Bass, Percussion 

แต่ส่วนนี้ดูจะใช้งานยากอยู่สักนิด แต่ก็มีวิดีโอสอนการใช้งานอยู่ในเว็บ


การใช้  AI แต่งเพลงตอนนี้ง่ายและรวดเร็ว อาจจะคุณภาพไม่ถึงกับดีมากแต่อนาคตต้องดีมากแน่นอน (อาจจะเร็ว ๆ นี้ ด้วยซ้ำ) 

ตอนนี้เหมาะกับการนำเพลงไปประกอบคลิปวิดีโอแบบรวดเร็ว หรือเป็นแนวทางในการแต่งเพลงได้ หรือใช้งานในรูปแบบอื่นแล้วแต่ความต้องการ.

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

Understanding El Niño: A Weather Phenomenon with Global Implications

                 El Niño is a complex weather phenomenon that occurs irregularly in the tropical Pacific Ocean, influencing weather patterns across the globe.

                 This phenomenon has far-reaching implications, affecting everything from agriculture and economies to ecosystems and human health.

                 In this article, we will delve into the intricacies of El Niño, exploring its causes, effects, and the scientific efforts to predict and understand this natural phenomenon.


Understanding El Niño:

                 El Niño refers to a warming of the ocean surface temperatures in the eastern and central equatorial Pacific, accompanied by changes in atmospheric pressure patterns. It is part of a larger climate cycle known as the El Niño-Southern Oscillation (ENSO).

                 The opposite phase of El Niño is called La Niña, characterized by cooler-than-normal ocean temperatures in the same region.


Causes of El Niño:

                 El Niño is primarily driven by interactions between the ocean and the atmosphere. Under normal conditions, trade winds blow from east to west across the equatorial Pacific, causing warm surface waters to accumulate in the western Pacific near Indonesia. This sets up a temperature gradient, with warmer waters in the west and cooler waters in the east.


                  During El Niño, there is a weakening of the trade winds, causing warm water to flow back eastward across the Pacific. This leads to a decrease in the upwelling of cold, nutrient-rich water in the eastern Pacific, disrupting the normal oceanic and atmospheric patterns.


Effects of El Niño:

                 El Niño has widespread effects on weather patterns around the world. It alters atmospheric circulation and disrupts the normal movement of air masses, influencing rainfall patterns and temperature distributions.

                 The impacts can be observed across continents, affecting areas as diverse as South America, North America, Asia, and Africa.


                 In South America, El Niño can result in heavy rainfall, leading to flooding and landslides. Conversely, it can bring drought conditions to parts of Southeast Asia and Australia.

                 The altered weather patterns can also affect agricultural productivity, fisheries, and water resources, impacting local economies.


                 Beyond the immediate regions, El Niño's effects can be felt in the form of extreme weather events like hurricanes, heatwaves, and wildfires.

                 It can lead to altered monsoon patterns, affecting agricultural outputs in India and Africa. Additionally, El Niño can influence global climate patterns, contributing to changes in temperature, rainfall, and storm frequency.


Scientific Understanding and Predictability:

               Understanding El Niño and its associated climate patterns is a complex task. Scientists use a combination of observations, computer models, and historical data to study and predict the occurrence of El Niño events.

               Oceanic buoys, satellites, and weather stations provide valuable data for monitoring sea surface temperatures, ocean currents, and atmospheric conditions.


               Advancements in computer models have significantly improved the ability to simulate and forecast El Niño events.

               These models incorporate data on ocean temperatures, atmospheric dynamics, and the interactions between the ocean and atmosphere. However, the accuracy of El Niño predictions is still subject to uncertainties and limitations.


The Future of El Niño Research:

               The study of El Niño and its global impacts continues to be a crucial area of research. Scientists aim to improve the accuracy and lead time of El Niño predictions to enhance preparedness and mitigate its potential impacts.

               They also investigate long-term climate trends and the possible influence of climate change on El Niño events.


                Understanding El Niño in a changing climate is essential for policymakers, planners, and communities to make informed decisions regarding water management, disaster preparedness, and sustainable development.


Conclusion:

               El Niño is a fascinating natural phenomenon that holds tremendous implications for weather patterns worldwide. Its impacts range from local disruptions in rainfall to global climate variability. 


วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

พระพิฆเนศ (ai generated images)

 ภาพพระพิฆเนศ สร้าง (generated) ด้วย AI




คำประพันธ์อื่น ๆ

ลิลิต คือคำประพันธ์ที่แต่งโดยใช้ร่ายและโคลงสัมผัสกันไปจนจบเรื่อง


กาพย์ห่อโคลง คือ คำประพันธ์ที่แต่งโดยใช้กาพย์ยานี ๑๑ และโคลงสี่สุภาพ

ให้มีเนื้อความอย่างเดียวกัน


กล หรือกลบท คือ คำประพันธ์ที่บัญญัติลักษณะพิเศษเพิ่มเติมลงไปกว่าเดิม

เช่น ใช้คำซ้ำเดิม ใช้อักษรเดียวล้วน หรือมีสัมผัสพลิกแพลง เป็นต้น


เพลงพื้นบ้าน 


คำประพันธ์รูปแบบใหม่ คือ คำประพันธ์ที่ไม่สามารถจัดเข้าประเภทใดข้างต้น

ได้ เช่น กลอนเปล่า (blank verse) วรรณรูปหรือวรรณลักษณ์ (concrete poem) และคำประพันธ์ที่มีผู้คิดรูปแบบใหม่ๆ ขึ้น.

ร่าย

ร่าย เป็นคำประพันธ์ที่ปรากฎหลักฐานในวรรณคดีไทยมานาน มีวิวัฒนาการมาจาก

คำคล้องจองที่คนไทยพูดกัน ลักษณะการแต่งก็ง่าย คือบทหนึ่งสามารถแต่งให้ยาวเท่าไรก็

ได้ แม้ว่าจะมีกำหนดคณะและสัมผัสอยู่บ้างแต่ก็ไม่เคร่งครัด ร่ายมี ๔ ประเภท ดังนี้


ร่ายยาว

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทร่ายยาว



ตัวอย่าง

                          "พ่อชาลีศรีสุริยวงศ์เยาวเรศ            เจ้าก็เกิดในมกุฏเกศกรุงสีวีราษฎร์

              ไยพ่อไม่องอาจย่อมย่อท้อทิ้งพระบิดา         ให้พราหมณ์มันจ้วงจาบหยาบช้า

              เจ้าเห็นชอบอยู่แล้วหนาพ่อสายใจ..."

                               (ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์กุมาร, เจ้าพระยาพระคลัง (หน)


ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคละ ๕ คำขึ้นไป

๒. สัมผัส - คำสุดท้ายวรรคหน้าสัมผัสกับคำใดก็ได้ของวรรคถัดไป ยกเว้นสองคำ

ท้ายวรรค


ร่ายโบราณ

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทร่ายโบราณ



ตัวอย่าง

   "แผนประพันธ์หนึ่งง่าย  เรียกว่าร่ายโบราณ        ประมาณวรรคละห้าคำ

    ไม่จำกัดมากน้อย         เติมสร้อยได้ท้ายบท     งดคำตายท้ายสุด

    สัมผัสยุดตามแผน        แต่งง่ายแสนสะดวกดาย               บารนี"

                                                                              (กำชัย ทองหล่อ)


ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคละ ๕ คำ อาจมีหรือไม่มีคำสร้อย ๒ คำที่

ท้ายบท

๒. สัมผัส - คำสุดท้ายวรรคหน้าสัมผัสกับใดก็ได้ของกรรคถัดไป ยกเว้นสองคำ

ท้ายวรรค


ร่ายสุภาพ

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทร่ายสุภาพ ๑ บท



ตัวอย่าง

               "ข้าไหว้ถวายชีพิด          เผือข้าชิดข้าเชื่อ             เชื่อดังฤาเหตุใด

                ธมิไว้ใจเท่าเผ้า        สองแม่ณหัวเจ้า         มิได้เอ็นดู     เผือฤา"

                                                                                            (ลิลิตพระลอ)


ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคละ ๕ คำ แต่ ๓ วรรคก่อนจบบทจะเป็น

โคลงสองสุภาพ อาจมีหรือไม่มีคำสร้อย ๒ คำที่ท้ายบท

๒. สัมผัส - คำสุดท้ายวรรคหน้าสัมผัสกับคำแรก คำที่สองหรือคำที่สามของวรรค

ถัดไป, สามวรรคสุดท้ายมีสัมผัสแบบโคลงสองสุภาพ


ร่ายดั้น ใช้ฉันทลักษณ์เช่นเดียวกับร่ายสุภาพ แต่จำนวนคำแต่ละวรรค มี ๓ - ๘ 

คำ และจบด้วยบาทที่ ๓ และบาทที่ ๔ ของโคลงสี่ดั้น.



วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ จำนวน ๑ บท



ตัวอย่าง บทประพันธ์ประเภทวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ จำนวน ๒ บท

                          "อ้าเพศก็เพศนุชอนงค์             อรองค์ก็บอบบาง

                  ควรแต่ผดุงศิริสอาง                         ศุภลักษณ์ประโลมใจ

                           ยามเข็ญก็เข็นศิระอวย             พลช่วยผจญภัย

                  โอ้ควรจะเอื้อนพจนไข                      คุณเลิศมโหฬาร"

                                      (ฉันท์ยอเกียรติชาวนครราชสีมา,พระยาอุปกิตศิลปสาร)


ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๔ วรรค หรือ ๒ บาท, ๑ บาทมี ๒ วรรค คือวรรคหน้า ๘ คำ และ 

วรรคหลัง ๖ คำ (รวม ๑ บาท มี ๑๔ คำ)

๒. สัมผัส - คำสุดท้ายวรรคแรกสัมผัสกับคำที่สามของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของ

วรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓

๓. สัมผัสระหว่างบท - คำสุดท้ายของบทต้นสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ของ

บทถัดไป

๔. คำแรก คำที่สอง คำที่สี่และคำที่แปดของวรรคหน้าแต่ละวรรค และคำที่สาม คำ

ที่ห้าและคำสุดท้ายของวรรคหลังแต่ละวรรค ใช้คำครุ, คำที่สาม คำที่ห้า คำที่หก และคำที่

เจ็ดของวรรคหน้าแต่ละวรรค และคำแรก คำที่สองและคำที่สี่ของวรรคหลังแต่ละวรรค ใช้คำลหุ.


อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

 อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทอินทรวิเชียรฉันท์ จำนวน ๑ บท



ตัวอย่าง บทประพันธ์ประเภทอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ จำนวน ๒ บท

                           "สายัณห์ตะวันยาม                ขณะข้ามฑิมัมพร

                     เข้าภาคนภาดอน                         ทิศะตกก็รำไร

                     รอนรอนและอ่อนแสง                   นภะแดงสิแปลงไป

                     เป็นครามอร่ามใส                         สุภะสดพิสุทธิ์สี

                                                 (ณ หาดทรายชายทะเลแห่งหนึ่ง,ชิต บุรทัต)


ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๔ วรรค หรือ ๒ บาท, ๑ บาทมี ๒ วรรค คือวรรคหน้า ๕ คำ และ

วรรคหลัง ๖ คำ (รวม ๑ บาท มี ๑๑ คำ)

๒. สัมผัส - คำสุดท้ายวรรคแรกสัมผัสกับคำที่สามของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของ

วรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓

สัมผัสระหว่างบท - คำสุดท้ายของบทต้นสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ของ

บทถัดไป

๓. คำแรก คำที่สอง คำที่สี่และคำสุดท้ายของวรรคหน้าแต่ละวรรค และคำที่สาม คำที่

ห้าและคำสุดท้ายของวรรคหลังแต่ละวรรค ใช้คำครุ, คำที่สามของวรรคหน้าแต่ละวรรค และ

คำแรก คำที่สองและคำที่สี่ของวรรคหลังแต่ละวรรค ใช้คำลหุ.

มาณวกฉันท์

มาณวกฉันท์

แผนผัง คำประพันธ์ประเภทมาณวกฉันท์ จำนวน ๑ บท



ตัวอย่าง บทประพันธ์ประเภทมาณวกฉันท์ จำนวน ๑ บท

                          "จงจรเที่ยว                  เทียวบทไป

                  พงพนไพร                           ไศละสำเนา

                  ดั้นบทเดิน                            เพลินจิตเรา

                  แบ่งทุขเบา                           เชาวนไว"

                                                     (นิทานเวตาล, น.ม.ส.)


ฉันทลักษณ์

๑. คณะ - ๑ บท มี ๘ วรรค หรือ ๔ บาท, ๑ บาทมี ๒ วรรค วรรคละ ๔ คำ (รวม ๑

บาท มี ๘ คำ)

๒. สัมผัส - คำสุดท้ายวรรคแรกสัมผัสกับคำแรกของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของวรรค

ที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ สัมผัสกับคำสุดท้ายของ

วรรคที่ ๖ และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๗ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๕ สัมผัสกับคำแรกของวรรคที่ ๖ 

๓. สัมผัสระหว่างบท - คำสุดท้ายของบทต้นสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ของ

บทถัดไป

๔. คำแรกและคำที่สี่ของแต่ละวรรค ใช้คำครุ, คำที่สองและคำที่สามของแต่ละวรรคใช้คำลหุ.