"หนูมุสิกะ"
นั้นเป็นบริวารเอกของ "พระพิฆเนศ"
การกระซิบขอพรกับหนูมุสิกะนั้นเปรียบเสมือนกับพึ่งพาบริวารของพระองค์ให้หนูมุสิกะเป็นสื่อกลางในการรับสารเพื่อที่จะได้รีบนำพรนั้น
ๆ ไปส่งให้ถึงองค์พระพิฆเนศโดยตรง
ตามตำนานความเชื่อความเป็นมาของ “หนูมุสิกะ”
มีหลายตำนานซึ่งก็แตกต่างกันออกไป แต่ตำนานที่เชื่อกันมากที่สุดของ “หนูมุสิกะ”
นั้นเชื่อกันว่า เดิมทีมีอสูรตนหนึ่ง ชื่อว่า "อสูรภังคี"
มีลักษณะเป็นช้างน้ำ และมีบริวารอยู่จำนวนมาก อสูรภังคีมักจะคอยรุกรานมนุษย์และเหล่าเทวดา
จนร้อนไปถึงองค์พระคเณศ ซึ่งพระองค์ได้เสด็จลงมาปราบอสูรภังคีด้วยร่างกายอันใหญ่โต
พร้อมกับตวาดเสียงใส่อสูรร้าย
เมื่ออสูรภังคีได้ยินเสียงตวาดของพระคเณศก็เกิดความกลัว
จึงรีบขอขมาและขอถวายตัวเป็นข้ารับใช้ โดยจำแลงกายเป็นหนู
คอยรับใช้พระคเณศเรื่อยมา
อีกตำนานก็เล่าว่า "หนูมุสิกะ" เป็นราชาหนู
อาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาไกรลาส คอยเป็นเพื่อนเล่นให้กับองค์พระคเณศ
ตั้งแต่สมัยพระองค์ยังเด็ก และได้เป็นข้ารับใช้คนสนิทของพระองค์นับแต่นั้นเรื่อยมา
นอกจากนี้ มีความเชื่อที่ว่า หากไป "กระซิบ" ขอพรข้างหูของ “หนูมุสิกะ”
แล้ว พรนั้นจะสำเร็จผล ซึ่งความเชื่อดังกล่าวมาจากชาวปูเน่ ประเทศอินเดีย
ที่เชื่อว่าการกระซิบข้างหูของ “หนูมุสิกะ” นั้น
เป็นการไหว้วานขอพึ่งพาอาศัยให้บริวารของพระพิฆเนศ
ได้เป็นสื่อกลางช่วยรับสารคำขอพรไปย้ำเตือนพระพิฆเนศ เพื่อให้ท่านได้ประทานพรแก่คนผู้ที่ขอนั้น
ซึ่งความเชื่อนี้ก็แผ่ขยายเป็นวงกว้างในหมู่ผู้ศรัทธาพระพิฆเนศ
การขอพรพระพิฆเนศให้สำเร็จผลอย่างรวดเร็ว
นอกจากจะต้องอธิษฐานขอพรต่อท่านแล้ว ยังต้องย้ำเตือนพรที่ตนได้ขอ กับ “หนูมุสิกะ”
ผู้เป็นพาหนะและบริวารของพระพิฆเนศ ขณะเดียวกัน ก็มีความเชื่อว่า
การจะขอพรหรือบนบานกับองค์พระพิฆเนศ จะต้องถวายหนูมุสิกะ เพื่อให้ท่านมีพาหนะ
นำพรอันประเสริฐให้เกิดกับตัวผู้ขออย่างรวดเร็ว ฉะนั้นหากใครที่ไปขอพรพระพิฆเนศ
ก็ควรนำ "หนูมุสิกะ" เป็นคู่ไปถวายด้วย
หรือถ้าใครที่บูชาพระพิฆเนศที่บ้านแต่ยังไม่มีหนู
ก็ควรหา "หนูมุสิกะ" มาถวายท่าน
วิธีขอพร “หนูมุสิกะ” ให้ได้ผล
ใช้วิธีการกระซิบขอพรที่ข้างหูโดยจะเลือกข้างไหนก็ได้ตามแต่ปรารถนาของแต่ละบุคคล
แต่ก่อนที่จะกระซิบต้องไม่ลืมที่จะนำมือข้างหนึ่งอ้อมมาปิดหูอีกข้างของ
“หนูมุสิกะ” เพื่อเป็นการไม่ให้พรที่เราขอไปนั้นทะลุผ่านหูอีกข้างหนึ่งของ
“หนูมุสิกะ” ออกไปนั่นเอง จากนั้นก็สามารถกระซิบขอพรหรือสิ่งที่ปรารถนาได้
และเมื่อขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำขนม นม หรือเงินถวายให้กับ “หนูมุสิกะ” ด้วย
หรือจะให้อะไรก็ได้ตามความสะดวกและความศรัทธาของผู้ขอพร.
ที่มา : www.komchadluek.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น